งานแฟร์นาฬิการะดับโลก Baselworld 2014
ราวกับว่าเวลาได้หมุนช้าลง 5 ชั่วโมง เมื่อก้มดูนาฬิกาข้อมือที่ปรับเปลี่ยนเข้าสู่เวลาในโซนท้องถิ่นของสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งช้ากว่าเวลาในประเทศไทย แล้วจึงปรับตัวตามอากาศเย็นยะเยือกในช่วงเช้ามืดของที่นั่น เราได้กลับมาเยี่ยมเยือนเมืองบาเซิลอีกครั้งเมื่องานแฟร์นาฬิการะดับโลกอย่าง Baselworld เวียนมาถึง
รถรางสีเขียวแล่นผ่านสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของเมือง ผ่านหอนาฬิกา ผ่านโรงละครและศูนย์ศิลปะ และผ่านสะพานข้ามแม่น้ำไรน์ จุดเชื่อมเขตแดนระหว่างบาเซิลของสวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศสและเยอรมันนีมาลงสถานี Messeplatz หรือ Exhibition Square ที่จัดงาน Baselworld Watch and Jewelry Show งานแสดงสินค้านาฬิกาและเครื่องประดับแบรนด์เนมระดับพรีเมียมของโลก ซึ่งมีประวัติความเป็นมาตั้งปี ค.ศ. 1917 เก่าแก่ไม่แพ้อายุอานามของเมืองบาเซิลที่ผ่านวันเวลามากว่า 2,000 ปี จนกระทั่งเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของสวิตเซอร์แลนด์ในปัจจุบัน
ตลอดช่วงเวลาของการจัดงาน ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม - 3 เมษายน 2014 คลาคล่ำไปด้วยผู้เข้าชมมากกว่า 150,000 คน และสื่อมวลชนราว 3,600 สำนัก โดยเฉพาะจากทางฝั่งเอเชียอย่างจีน ฮ่องกง และไต้หวัน ซึ่งเป็นประเทศที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสินค้าหรูหรามากขึ้น แต่ละแบรนด์จึงนำคอลเลคใหม่มาอวดโฉมอย่างไม่ยอมกัน ทั้งนวัตกรรม กลไกและดีไซน์ใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับเทรนด์ของนาฬิกาและเครื่องประดับของโลก ซึ่งกลายมาเป็นส่วนสำคัญของไลฟ์สไตล์ของผู้คนในช่วง 10 ปีมานี้
กว่า 1,400 บูธถูกตกแต่งอย่างสวยงามตามคาแร็กเตอร์ของแบรนด์ และหลายบูธก็โดดเด่นด้วยการออกแบบในคอนเซ็ปต์ใหม่อาทิ ธู Fendi ที่สะท้อนวัฒนธรรมโรมันอันเป็นประวัติศาสตร์ของแบรนด์ โดยรังสรรค์พื้นที่ให้เหมือนกับบรรยากาศของการท่องเที่ยวไปใน exotic trip โดดเด่นด้วยงานศิลป์อย่าง A Million Times 72 สลึกชื่อแบรนด์เฟนดิที่ด้านหน้า ส่วนบูธนาฬิกาแบรนด์ Patek Philippe ในรูปแบบกระจกใสขนาดมหึมาหนัก 70 ตันรอบพาวิลเลียน เผยให้เห็นความสวยงามของนาฬิกาอย่างเด่นชัดจากด้านนอกในสไตล์ Futuristic รวมถึงบูธนาฬิกาแบรนด์ Bvlgari ที่แปลกตาด้วย facade ด้านหน้าสีบรอนซ์ เชื่อมโยงกับลวดลายของนาฬิกาในคอลเลคชั่นไอคอนอย่าง Serpenti และ Tubogas ฯลฯ ทั้งหมดตั้งอยู่ในฮอลล์ที่เชื่อมแต่ละชั้น แต่ละตึกเข้าด้วยกันอย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังปรับภูมิทัศน์ด้านนอกให้เต็มไปด้วยความสดใสของดอกไม้และคอนเสิร์ตจากนักดนตรีหลากหลายแนวในช่วงเย็นของแต่ละวัน รวมแล้วใช้เงินลงทุนไปทั้งหมดกว่า 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ https://fashionlovely.com